เมนู

6. เภสชฺชกฺขนฺธโก

160. ปญฺจเภสชฺชกถา

[260] เตน สมเยน พุทฺโธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขูนํ สารทิเกน อาพาเธน ผุฏฺฐานํ ยาคุปิ ปีตา อุคฺคจฺฉติ, ภตฺตมฺปิ ภุตฺตํ อุคฺคจฺฉติฯ เต เตน กิสา โหนฺติ, ลูขา, ทุพฺพณฺณา, อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาตา, ธมนิสนฺถตคตฺตาฯ อทฺทสา โข ภควา เต ภิกฺขู กิเส ลูเข ทุพฺพณฺเณ อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาเต ธมนิสนฺถตคตฺเต, ทิสฺวาน อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘กิํ นุ โข, อานนฺท, เอตรหิ ภิกฺขู กิสา, ลูขา, ทุพฺพณฺณา, อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาตา, ธมนิสนฺถตคตฺตา’’ติ? ‘‘เอตรหิ, ภนฺเต, ภิกฺขูนํ สารทิเกน อาพาเธน ผุฏฺฐานํ ยาคุปิ ปีตา อุคฺคจฺฉติ, ภตฺตมฺปิ ภุตฺตํ อุคฺคจฺฉติฯ เต เตน กิสา โหนฺติ, ลูขา, ทุพฺพณฺณา, อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาตา, ธมนิสนฺถตคตฺตา’’ติฯ อถ โข ภควโต รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘‘เอตรหิ โข ภิกฺขูนํ สารทิเกน อาพาเธน ผุฏฺฐานํ ยาคุปิ ปีตา อุคฺคจฺฉติ, ภตฺตมฺปิ ภุตฺตํ อุคฺคจฺฉติฯ เต เตน กิสา โหนฺติ, ลูขา, ทุพฺพณฺณา, อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาตา, ธมนิสนฺถตคตฺตาฯ กิํ นุ โข อหํ ภิกฺขูนํ เภสชฺชํ อนุชาเนยฺยํ, ยํ เภสชฺชญฺเจว อสฺส เภสชฺชสมฺมตญฺจ โลกสฺส, อาหารตฺถญฺจ ผเรยฺย, น จ โอฬาริโก อาหาโร ปญฺญาเยยฺยา’’ติ? อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘อิมานิ โข ปญฺจ เภสชฺชานิ, เสยฺยถิทํ – สปฺปิ, นวนีตํ, เตลํ, มธุ, ผาณิตํ; เภสชฺชานิ เจว เภสชฺชสมฺมตานิ จ โลกสฺส, อาหารตฺถญฺจ ผรนฺติ, น จ โอฬาริโก อาหาโร ปญฺญายติฯ ยํนูนาหํ ภิกฺขูนํ อิมานิ ปญฺจ เภสชฺชานิ อนุชาเนยฺยํ, กาเล ปฏิคฺคเหตฺวา กาเล ปริภุญฺชิตุ’’นฺติฯ อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺฐิโต เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อิธ มยฺหํ, ภิกฺขเว, รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘เอตรหิ โข ภิกฺขูนํ สารทิเกน อาพาเธน ผุฏฺฐานํ ยาคุปิ ปีตา อุคฺคจฺฉติ, ภตฺตมฺปิ ภุตฺตํ อุคฺคจฺฉติฯ เต เตน กิสา โหนฺติ, ลูขา, ทุพฺพณฺณา, อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาตา, ธมนิสนฺถตคตฺตาฯ กิํ นุ โข อหํ ภิกฺขูนํ เภสชฺชํ อนุชาเนยฺยํ, ยํ เภสชฺชญฺเจว อสฺส เภสชฺชสมฺมตญฺจ โลกสฺส, อาหารตฺถญฺจ ผเรยฺย, น จ โอฬาริโก อาหาโร ปญฺญาเยยฺยา’ติฯ ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตทโหสิ ‘อิมานิ โข ปญฺจ เภสชฺชานิ , เสยฺยถิทํ – สปฺปิ, นวนีตํ, เตลํ, มธุ, ผาณิตํ; เภสชฺชานิ เจว เภสชฺชสมฺมตานิ จ โลกสฺส, อาหารตฺถญฺจ ผรนฺติ, น จ โอฬาริโก อาหาโร ปญฺญายติฯ ยํนูนาหํ ภิกฺขูนํ อิมานิ ปญฺจ เภสชฺชานิ อนุชาเนยฺยํ, กาเล ปฏิคฺคเหตฺวา กาเล ปริภุญฺชิตุ’นฺติฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตานิ ปญฺจ เภสชฺชานิ กาเล ปฏิคฺคเหตฺวา กาเล ปริภุญฺชิตุ’’นฺติฯ

[261] เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู ตานิ ปญฺจ เภสชฺชานิ กาเล ปฏิคฺคเหตฺวา กาเล ปริภุญฺชนฺติฯ เตสํ ยานิปิ ตานิ ปากติกานิ ลูขานิ โภชนานิ ตานิปิ นจฺฉาเทนฺติ, ปเคว เสเนสิตานิ [เสเนสิกานิ (สี. สฺยา.), เสเนหิกานิ (โยชนา)]ฯ เต เตน เจว สารทิเกน อาพาเธน ผุฏฺฐา, อิมินา จ ภตฺตาจฺฉาทเกน [ภตฺตาจฺฉนฺนเกน (ก.)], ตทุภเยน ภิยฺโยโสมตฺตาย กิสา โหนฺติ, ลูขา, ทุพฺพณฺณา, อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาตา, ธมนิสนฺถตคตฺตาฯ อทฺทสา โข ภควา เต ภิกฺขู ภิยฺโยโสมตฺตาย กิเส ลูเข ทุพฺพณฺเณ อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาเต ธมนิสนฺถตคตฺเต, ทิสฺวาน อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘กิํ นุ โข, อานนฺท, เอตรหิ ภิกฺขู ภิยฺโยโสมตฺตาย กิสา, ลูขา, ทุพฺพณฺณา, อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาตา, ธมนิสนฺถตคตฺตา’’ติ? ‘‘เอตรหิ, ภนฺเต, ภิกฺขู ตานิ จ ปญฺจ เภสชฺชานิ กาเล ปฏิคฺคเหตฺวา กาเล ปริภุญฺชนฺติฯ เตสํ ยานิปิ ตานิ ปากติกานิ ลูขานิ โภชนานิ ตานิปิ นจฺฉาเทนฺติ, ปเคว เสเนสิกานิฯ เต เตน เจว สารทิเกน อาพาเธน ผุฏฺฐา, อิมินา จ ภตฺตาจฺฉาทเกน, ตทุภเยน ภิยฺโยโสมตฺตาย กิสา, ลูขา, ทุพฺพณฺณา, อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาตา, ธมนิสนฺถตคตฺตา’’ติฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตานิ ปญฺจ เภสชฺชานิ ปฏิคฺคเหตฺวา กาเลปิ วิกาเลปิ ปริภุญฺชิตุ’’นฺติฯ

[262] เตน โข ปน สมเยน คิลานานํ ภิกฺขูนํ วเสหิ เภสชฺเชหิ อตฺโถ โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ